homepage
5 เบเกอรี่ง่ายๆ ไม่ใช้เตาอบ ทำตามได้ อร่อยเน้นๆ เหมือนกินที่ร้าน!
อยากทำเบเกอรี่ ทำขนมทำง่าย เพราะไม่ถนัดใช้เตาอบ ทาง ShopBack มีตัวช่วยเป็นเมนูเบเกอรี่ง่ายๆ ไม่ใช้เตาอบ ที่สำคัญคือไม่ยุ่งยาก ใครๆ ก็สามารถทำตามได้ง่าย เพราะจะคัดเลือกมาแต่ขนมทำง่าย บอกวิธีทำขนม และส่วนผสมครบ ชนิดที่ว่าคนไม่เคยเรียนทำขนม ก็ทำได้แบบชิลๆ ซึ่งข้อดีของการทำเมนูเบเกอรี่ง่ายๆ ไม่ใช้เตาอบ นอกจากจะสะดวก ทำกินในปาร์ตี้ที่บ้านได้ ถ้าทำไปเรื่อยๆ จนคล่องมือเก่งแล้ว ยังสามารถนำไปเป็นของขวัญ รวมถึงทำขายเป็นอาชีพเสริมได้อีกด้วย ถ้าพร้อมแล้ว ก็ไปดูกันเลยดีกว่าว่าเมนูเบเกอรี่ง่ายๆ ไม่ใช้เตาอบที่ว่าจะมีอะไรบ้าง
บลูเบอร์รี่ชีสพาย (Blueberry Cheese Pie)
นับว่าเป็นเมนูเบเกอรี่ง่ายๆ ไม่ใช้เตาอบอย่างแรกที่คนส่วนใหญ่จะนึกถึง เพราะว่าทำง่าย ส่วนผสมไม่เยอะ และใช้ไม่กี่ขั้นตอน คุณก็ได้บลูเบอร์รี่ชีสพายแสนอร่อยแล้ว ซึ่งเมนูเบเกอรี่ง่ายๆ ไม่ใช้เตาอบนี้ก็ง่ายดายมาก เพียงแค่มีวัตถุดิบพร้อม และใช้แค่ตู้เย็นเพียงเท่านั้น
บลูเบอร์รี่ชีสพาย ก็คือหลักๆ แล้วจะใช้ตัวพาย และชีสเป็นพื้นฐาน แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบกินบลูเบอร์รี่ สามารถ diy เมนูอร่อยนี้ ให้เป็นอย่างอื่นก็ได้ เช่น เลือกใช้เป็นแยมสตรอเบอร์รี่ หรือว่าเปลี่ยนเป็นโอริโอ้ชีสพายก็ได้เช่นกัน สำหรับใครที่ชอบกินเมนูนี้ แต่ไม่อยากเสียเงินแพงเพื่อไปซื้อ ไปดูวิธีง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้กันเลยดีกว่า
ส่วนผสม
- ขนมปังแครกเกอร์ 100 กรัม
- เนยสดชนิดเค็ม 1 ก้อน (หรือ ⅓ ถ้วยตวง)
- ครีมชีส 1 ก้อน
- นมข้นหวาน ⅓ กระป๋อง
- วิปปิ้งครีม
- น้ำมะนาว 2-3 ช้อนโต๊ะ
- บลูเบอร์รี่กระป๋อง
วิธีทำ
- บดแครกเกอร์ที่เตรีมมาให้เป็นผงละเอียด จนสามารถนำเข้าไปใส่ในพิมพ์ได้จนแน่น
- นำเนยสดแบบเค็มไปละลายในไมโครเวฟ แล้วค่อยๆ เทลงบนแครกเกอร์ที่บดไว้แล้ว เพื่อช่วยให้แครกเกอร์จับตัวกันได้ดี
- หลังจากที่ผสมเนยละลายลงในแครกเกอร์ ก็ให้นำแครกเกอร์ที่บด และผสมเนยใส่ลงในถาดพิมพ์ให้เรียบร้อย กดให้แน่น
- นำแครกเกอร์ไปแช่ช่องแข็งประมาณ 20 – 30 นาที
- ผสมครีมชีส โดยใช้ครีมชีส 1 ก้อน ตีให้ขึ้นฟู จากนั้นผสมนมข้นหวานลงไป แล้วตีให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นก็ให้บีบมะนาวลงไป เพื่อช่วยเพิ่มความเปรี้ยวให้กับครีมชีส
- ตักครีมชีสใส่ลงในถาดพาย แล้วนำไปแช่ช่องแข็งต่ออีก 1 ชั่วโมง
- เมื่อแช่ช่องแข็งเรียบร้อย ก็นำออกมาราดบลูเบอร์รี่ลงไป จากนั้นก็นำไปแช่ต่ออีกประมาณ 1 ชั่วโมง พร้อมเสิร์ฟ
ShopBack Tips : อันที่จริงแล้วชีสนั้นเองก็มีหลายชนิด หลายประเภทด้วยกัน แต่ชีสที่นำมาทำขนมส่วนมาก รวมถึงเมนูบลูเบอร์รี่ชีสพายก็คือ “ครีมชีส (Cream cheese)” ลักษณะของครีมชนิดนี้ จะไม่แข็ง มีเนื้อนุ่ม และมีความมัน ส่วนใหญ่จะมีรสเปรี้ยว อันเนื่องจากกรรมวิธีในการผลิต เป็นชีสที่รสชาติไม่เค็มจัด แต่มักจะมีความหวานซ่อนเปรี้ยว นิยมนำมาทำขนม และทำอาหารบางประเภท หาซื้อชีสสด คุณภาพดี เข้าไปเลือกช้อปแบบมี ส่วนลด Tops Online ใน ShopBack มีชีสให้เลือกหลายยี่ห้อ และยังประหยัดได้อีก เพราะช้อปผ่าน Shopback ได้เงินคืนด้วย |
ช็อกโกแลตบราวนี่ (Chocolate Brownie)
ช็อกโกแลตบราวนี่ ดูเหมือนทำยาก แต่จริงๆ แล้วเมนูนี้เป็นเมนูเบเกอรี่ง่ายๆ ไม่ใช้เตาอบ คนที่ไม่มีเตาอบหรือว่าอยู่หอก็สามารถทำชอกโกแลตบราวนี่สำหรับปาร์ตี้ได้ง่ายๆ ซึ่งข้อดีของช็อกโกแลตบราวนี่คือ ใช้วัตถุดิบอื่นๆ ผสมลงไปบราวนี่ได้ รวมถึงสามารถใส่โอริโอ้ หรือว่าคิทแคทไปด้านบน เพื่อโรยหน้าเพื่อความสวยงาม หรือถ้าหากใครชอบกินขนมอะไรก็สามารถใส่ลงไปได้
นอกจากชอกโกแลตบราวนี่จะอร่อยแล้ว ยังเหมาะกับการทำไปเซอร์ไพรส์แฟน ทำเป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ได้ง่ายๆ เพียงแค่เตรียมวัตถุดิบ และทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
ส่วนผสม
- แครกเกอร์ 10 – 12 ชิ้น
- นมข้นหวาน ¾ กระป๋อง
- ช็อกโกแลตชิพ (ตามเท่าที่ต้องการ)
- ผงโกโก้
- ถั่ว (ตามเท่าที่ต้องการ)
- เกลือ
วิธีทำ
- บดแครกเกอร์ให้ละเอียด จากนั้นให้บดถั่วแล้วใส่ลงไปผสมกัน
- จากนั้นให้ใส่ผงโกโก้เข้าไปผสม และตามด้วยเกลือ 1 หยิบมือ
- ผสมให้เข้ากัน จากนั้นให้ใส่นมข้นหวานลงไป แล้วผสมให้เข้ากันอีกรอบ
- พอส่วนผสมเริ่มเข้ากันได้ดี ก็ให้ใส่ช็อกโกแลตที่ละลายแล้วลงไป จากนั้นก็คนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันอีกรอบ โดยให้ทั้งหมดกลายเป็นเนื้อเดียวกัน
- จากนั้นให้ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในแม่พิมพ์ กดให้ส่วนผสมแน่นเป็นก้อนเดียวกัน หากอยากโรยหน้า ก็ให้นำช็อกโกแลตไปละลาย แล้วราดลงไปบนหน้าบราวนี่ จากนั้นให้โรยถั่วให้ทั่ว
- นำไปเข้าช่องแช่แข็งประมาณ 1-2 ชั่วโมง ก็จะได้ช็อกโกแลตบราวนี่พร้อมเสิร์ฟ
ShopBack Tips : หัวใจหลักของเมนูช็อกโกแลตบราวนี่ก็คือ “ช็อกโกแลต (Chocolate)” แนะนำหากใครที่ชอบความหวาน ก็นำช็อกโกแลตนม หรือช็อกโกแลตหวานใส่ลงไป แต่ถ้าใครไม่ชอบรสหวาน แนะนำให้ใช้ดาร์กช็อกโกแลต รวมถึงถั่วต่างๆ หากคุณชอบกินถั่วชนิดไหน ก็สามารถใช้ชนิดนั้นได้เลย ไม่มีสูตรตายตัว สำหรับทั้งช็อกโกแลต และถั่ว รวมถึงวัตถุดิบต่างๆ หากอยากได้ความคุ้มค่า สั่งแบบมีโปรโมชั่น Big C ผ่าน ShopBack รับรองว่าคุ้มค่ากว่า |
บานอฟฟี่พาย (Banoffee pie)
เมนูเบเกอรี่ง่ายๆ ไม่ใช้เตาอบนี้ ใครๆ ก็ชอบ เด็กกินได้ผู้ใหญ่ก็กินดี เพราะมีรสหวานหอมอร่อย ส่วนผสมหลักๆ ที่ใช้ในเมนูบานอฟฟี่พาย (Banoffee pie) ก็คือกล้วย ดังนั้นเมนูบานอฟฟี่พายนี้ จึงหอมหวาน หากใครชอบกินกล้วย แนะนำเลยว่าไม่ควรพลาด
บานอฟฟี่พายนั้นจะทำใส่ถ้วย หรือว่าใส่ถาดก็ได้ แล้วแต่ความสะดวก หากใครที่ทำกินเอง แนะนำให้ทำทั้งถาดไปเลย รับรองว่าฟินกว่าแน่! หรือถ้าหากอยากทำสำหรับปาร์ตี้ ก็สามารถทำใส่ถ้วย เพื่อความสะดวกในการเสิร์ฟ และรับประทาน สำหรับวัตถุดิบก็ไม่ยาก ทำตามได้ง่ายๆ เลย
ส่วนผสม
- แครกเกอร์ หรือโอริโอ้คุ้กกี้ครีม (แต่ถ้าเป็นโอริโอ้ให้แยกเอาใส่ออก)
- เนยสดชนิดจืด 100 กรัม
- น้ำตาลทรายขาว 100 กรัม
- วิปปิ้งครีม 150 กรัม
- เกลือ 1 หยิบมือ
- นมข้นหวาน ¾ กระป๋อง
- กล้วยหอมสุก 3 ลูก
วิธีทำ
- บดแครกเกอร์ หรือโอริโอ้ ถ้าใครชอบโอริโอ้ ก็ให้แยกส่วนที่เป็นไส้ครีมออกมาก่อน จากนั้นนำไปบดให้ละเอียด
- นำเนยจืดไปละลาย จากนั้นให้นำมาผสมกับโอริโอ้บดให้เข้ากัน
- นำโอริโอ้ที่ผสมเนยจืดเรียบร้อยแล้ว ใส่แม่พิมพ์ จากนั้นกดให้แน่น
- นำเข้าแช่ช่องแข็งประมาณ 20 – 30 นาที
- ให้ทำคาราเมล โดยการนำน้ำตาลทรายขาวไปเคี่ยวจนกลายเป็นคาราเมล จากนั้นก็ให้นำวิปปิ้งครีมเข้าไมโครเวฟไปอุ่น
- เมื่อน้ำตาลค่อยๆ เดือดจนกลายเป็นสีน้ำตาล จนเกือบจะเป็นคาราเมล ก็ให้ค่อยๆ เทวิปปิ้งครีมอุ่นลงไปผสม
- จากนั้นให้เคี่ยวต่อไปเรื่อยๆ จึงใส่เนยจืด และเกลือหนึ่งหยิบมือลงไป
- ราดคาราเมลลงบนโอริโอ้พาย
- นำกล้วยไปหั่นให้เป็นชิ้นพอดีคำ จากนั้นเอาไปวางไว้บนโอริโอ้พาย
- แต่งหน้าบานอฟฟี่พายด้วยวิปปิ้งครีมที่ตีจนขึ้นฟู หรือสามารถใช้วิปปิ้งครีมสำเร็จรูปก็ได้
- โรยผงโกโก้ด้านบนเพื่อตกแต่ง แล้วพร้อมเสิร์ฟ
ShopBack Tips : เพื่อความอร่อยของเมนูเบเกอรี่ทั้งหลาย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือส่วนผสม รวมถึงวัตถุดิบก็จะต้องสด และใหม่อยู่เสมอ เพราะเบเกอรี่ต้องอาศัยรสสัมผัสของวัตถุดิบหลายๆ อย่าง และความกลมกลืนของส่วนผสม สั่งวัตถุดิบทำขนมจาก Happyfresh รับรองว่านอกจากจะได้วัตถุดิบที่สะอาด สดใหม่ ยังได้เงินคืนผ่าน Shopback ด้วย เป็นการช้อปที่ประหยัดได้มากกว่าซื้อเองซะอีก |
ช็อกโกแลตลาวา (Chocolate Lava)
“ช็อกโกแลตลาวา (Chocolate Lava)” เป็นเมนูเบเกอรี่ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีมานี้ แต่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม นับว่าเป็นเมนูขนมที่ใครๆ ก็ชอบรับประทาน ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็กๆ ไปจนถึงผู้ใหญ่ต่างก็ติดใจความหอมหวาน และความน่าตื่นตาตื่นใจเวลาที่ลาวาชอกโกแลตด้านในไหลออกมากันทั้งนั้น
เมนูนี้จะรับประทานเดี่ยวๆ ก็ได้ หรือถ้าอยากเพิ่มความอร่อย ให้ลองกินคู่กับไอศกรีม หรือว่าขนมปังฮันนี่โทสต์ก็เข้ากันได้เป็นอย่างดี เป็นอีกหนึ่งเมนูเบเกอรี่ที่ทำได้ง่ายๆ ที่อยากจะแนะนำ เพราะไม่ว่าจะเทศกาลไหน กินเมื่อไหร่ก็อร่อย
ส่วนผสม
- ช็อกโกแลต 1 แท่ง
- ผงโกโก้แบบไม่หวาน 2 ช้อนโต๊ะ
- แป้ง ¼ ถ้วย
- น้ำตาล ¼ ถ้วย
- เนยจืดละลาย 3 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- ผงฟู ½ ช้อนชา
- เกลือ 1 หยิบมือ
- นมจืด ¼ ถ้วย
วิธีทำ
- ผสมเกลือ ผงฟู ผงโกโก้ และแป้งลงไปให้เข้ากัน
- ใส่เนยที่ละลายแล้วส่งไปในส่วนผสมที่คนไว้ จากนั้นให้เทนมจืดตามลงไป
- ตอกไข่ใส่ลงไปในส่วนผสมทั้งหมด จากนั้นคนให้เข้ากัน
- ใส่ช็อกโกแลตแท่งลงไปตรงกลาง
- จากนั้นให้เอาเข้าไมโครเวฟประมาณ 1.30 – 2.00 นาที นำออกจากเตาโรยไอซ์ซิ่งเล็กน้อย พร้อมเสิร์ฟ
คัสตาร์ดคาราเมล (Custard Caramel)
เชื่อได้เลยว่าบ้านไหนมีสมาชิกเด็กๆ อยู่เยอะ เป็นอันต้องถูกใจเมนูเบเกอรี่นี้อย่างแน่นอน ที่สำคัญคือทำง่ายมาก ไม่ต้องใช้เตาอบให้ยุ่งยาก เพราะ “คัสตาร์ดคาราเมล (Custard Caramel)” ใช้ส่วนผสมอยู่แค่ไม่กี่อย่าง และที่สำคัญคือใช้อุปกรณ์แค่ตู้เย็นเท่านั้นพอ
ความโดดเด่นของเมนูนี้อยู่ที่ความหอมหวาน มีส่วนผสมสำคัญคือ ไข่ และ นม ที่สำคัญคือ รสชาติไม่ซับซ้อน เด็กๆ ที่เพิ่งเริ่มได้กินขนมหวานก็สามารถกินได้อย่างแน่นอน
ส่วนผสม
- ไข่ไก่ 3 ฟอง
- น้ำตาล 200 กรัม
- นมจืด 200 มิลลิกรัม
- กลิ่นวานิลลา 2-3 หยด
วิธีทำ
- นำน้ำตาลไปเคี่ยวจนกลายเป็นคาราเมล จากนั้นให้เติมน้ำสะอาดลงไป แล้วเคี่ยวต่อจนคาราเมลเริ่มจะเหนียว ให้ปิดไฟ ยกลงจากเตา
- เทคาราเมลทั้งหมดใส่ถ้วยที่เตรียมเอาไว้ พอคาราเมลหายร้อน เริ่มจะพออุ่น ก็ให้ยกใส่ตู้เย็น
- นำนมจืดไปอุ่น นำไข่ น้ำตาลทรายมาตีให้เข้ากัน จากนั้นให้หยดกลิ่นวานิลลาลงไป เพื่อเพิ่มความหอมหวาน
- นำนมที่อุ่นจนพอร้อนมาเทใส่ในไข่ที่คนส่วนผสมให้เท่ากัน
- จากนั้นนำส่วนผสมคัสตาร์ดที่ได้มากรอง เนื้อคัสตาร์ดจะได้เนียนๆ
- นำคัสตาร์ดไปเทลงในถ้วยคาราเมล แล้วนำไปนึ่งประมาณ 20-25 นาที
- นึ่งเสร็จ ทิ้งไว้ให้พออุ่น นำไปแช่ในตู้เย็น พร้อมรับประทาน
รับรองว่าเมื่อมีสูตรเบเกอรี่ง่ายๆ ไม่ใช้เตาอบนี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเมนูไหนก็สามารถทำตามได้อย่างง่ายดาย ปาร์ตี้ครั้งหน้า ไม่ว่าจะเป็นปาร์ตี้ปีใหม่ หรือปาร์ตี้ไหนๆ นอกจากจะสนุกสนาน ยังอร่อยได้ง่ายๆ ไม่ต้องไปเสียเงินซื้ออีกด้วย ถ้าใครกำลังมองหาสูตรขนมง่ายๆ ก็ลองสั่งวัตถุดิบจากร้านค้าต่างๆ ออนไลน์มาส่งที่บ้าน แล้วลองทำตามดูกันนะคะ!
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น